หลายคนน่าจะเลือกใช้บริการขนส่งชิปปิ้งจากประเทศจีน สำหรับการนำเข้าสินค้าจากจีน และหลายคนน่าจะรู้ดีกันอยู่แล้วว่า การนำเข้าสินค้าจากจีนเหล่านี้ ในเรื่องของการขนส่งนั้น เราสามารถเลือกวิธีการขนส่งได้มากมายหลากหลายทาง ซึ่งวิธีการขนส่งแต่ละแบบนั้น ก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป วิธีการขนส่งของแต่ละแบบนั้น แตกต่างกันอย่างไรได้บ้าง มีวิธีการใดบ้าง และสำหรับผู้ที่นำเข้าสินค้าจากจีน จะเลือกนำเข้าสินค้าจากจีนด้วยวิธีการใด และเลือกนำเข้าในช่องทางไหน เพื่อให้เหมาะสมกับธุรกิจของเรามากที่สุด
บริการขนส่งทางรถ
บริการขนส่งทางรถนั้น โดยปกติผู้ที่นำเข้าสินค้าจากจีน จะสามารถเลือกใช้บริการขนส่งทางรถผ่านทางรถตู้ หรือรถบรรทุกประเภทอื่นจากประเทศจีนมายังประเทศไทยบ้านเรา จำเป็นที่จะต้องวิ่งผ่านพรมแดนหลายประเทศ และเมื่อเดินทางมาถึงที่ประเทศไทย ก็จะได้รับการผ่านพิธีศุลกากร และท้ายที่สุดก็จะตรงมายังโกดังสินค้าของผู้ให้บริการชิปปิ้ง เพื่อเตรียมสินค้าให้กับเราในขั้นตอนต่อไป
การขนส่งสินค้าด้วยวิธีการทางรถนี้ มีข้อดีที่เห็นได้อย่างชัดเจนก็คือ ใช้เวลาในการขนส่งน้อยกว่า และไม่จำเป็นต้องรอนาน มีรอบในการขนส่งที่ค่อนข้างรวดเร็วกว่า โดยเฉลี่ยแล้วจะใช้เวลาขนส่งอยู่ที่ประมาณ 5-7 วัน ก็จะขนส่งสินค้าจากจีนถึงประเทศไทย โดยระยะเวลานี้จะไม่รวมระยะเวลาขนส่งสินค้าของผู้ให้บริการในประเทศจีน แต่ก็มีข้อเสียอยู่คือ ค่าขนส่งอาจจะสูงกว่าค่าขนส่งทางเรือ และสามารถที่จะขนส่งมาได้ในปริมาณที่น้อยกว่า หากเทียบกับการขนส่งทางเรือ ดังนั้นวิธีการขนส่งทางรถนี้ จึงเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการสินค้าอย่างรวดเร็ว และขนส่งสินค้าในปริมาณที่น้อยกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาการขนส่งสินค้าที่ค่อนข้างสูงกว่า
บริการขนส่งทางเรือ
บริการขนส่งทางเรือนี้ เป็นบริการการขนส่งที่ผู้นำเข้าสินค้าจากจีนนิยมเป็นอย่างมาก วิธีการก็คือ การที่ชิปปิ้งจีน จะใช้บริการขนส่งทางเรือจากประเทศจีนมายังประเทศไทย ซึ่งโดยกรรมวิธีนั้น แต่ละบริษัทชิปปิ้งก็จะมีขั้นตอนของตนเองแตกต่างกันออกไป แต่โดยรวมแล้ว การสั่งสินค้าจากผู้ให้บริการ และขนส่งมายังโกดังของบริษัทชิปปิ้งนั้น ปกติจะขนส่งโดยลงตู้คอนเทนเนอร์ แล้วจากนั้นจึงค่อยนำมาขึ้นเรือ หลังจากที่ผ่านกระบวนการในการส่งออกแล้ว เรือขนส่งสินค้าก็จะเดินทางจากประเทศจีนมายังท่าเรือของประเทศไทยเรา และก็เช่นเดียวกับการขนส่งทางรถ คือจ๊ะ เขากระบวนการนำเข้าและพิธีศุลกากรตามปกติ ก่อนที่จะนำสินค้าเหล่านี้ ไปยังโกดังของผู้ให้บริการชิปปิ้ง เพื่อรอการนำส่งต่อไป
การขนส่งทางเรือนั้น ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นเดียวกัน ข้อดีของการขนส่งทางเรือก็คือ สามารถที่จะขนส่งสินค้าได้ในปริมาณที่มากกว่าการขนส่งทางรถ ในขณะเดียวกัน ค่าบริการการขนส่งก็จะถูกกวาดการขนส่งทางรถเสียอีก ยิ่งสั่งสินค้าในปริมาณมาก ก็จะยิ่งได้ราคาที่ถูกลงไปอีก นั่นทำให้ผู้ที่นำเข้าสินค้าจากจีน สามารถจัดประหยัดเงินได้มากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับในเรื่องของข้อจำกัดของการขนส่งทางเรือ นั้นคือในเรื่องของระยะเวลาการขนส่งที่จะช้ากว่าอย่างแน่นอน ระยะเวลาโดยเฉลี่ย ในการขนส่งทางเรือจะอยู่ที่ประมาณ 12-15 วัน ทำให้ได้รับสินค้าค่อนข้างช้า เหมาะสมสำหรับผู้ที่ไม่รีบร้อน และต้องการซื้อของในปริมาณที่มาก นอกจากนี้ ผู้ที่นำเข้าสินค้าจากจีนด้วยวิธีการขนส่งทางเรือ ยังสามารถที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากด้วย ยิ่งซื้อในปริมาณมากก็ยิ่งประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปอีก
และเหล่านี้คือความแตกต่างของวิธีการขนส่งสินค้าทางเรือและทางรถ ที่ผู้นำเข้าสินค้าจากจีนจำเป็นที่จะต้องรู้และศึกษาเอาไว้ แต่ละแบบก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป เลือกวิธีการที่เราสะดวกน่าจะดีที่สุด
