สำหรับผู้ที่ต้องการนำเข้าสินค้าจากจีน จำเป็นต้องรู้เรื่องราวเกี่ยวกับทุกอย่าง มีเอกสารมากมายที่จำเป็นที่จะต้องศึกษา เอกสารชิ้นหนึ่งที่จำเป็นจะต้องทำความรู้จัก เราเรียกว่า Form E เป็นเอกสารที่ถือเป็นเอกสารสำหรับการแสดงถิ่นกำเนิดของสินค้า ระหว่างประเทศจีนกับบรรดาประเทศอื่นในแถบอาเซียน เปรียบเสมือนเอกสารที่จะช่วยยืนยันว่าวัตถุดิบต่างๆ พร้อมกับทำการระบุ ว่าวัตถุดิบเหล่านั้นเป็นวัตถุดิบที่ผลิตขึ้นจากประเทศไหนในแถบอาเซียน สำหรับคนที่รู้อยู่แล้วก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอะไร แต่ก็มีรายละเอียดอีกมากมายที่จำเป็นจะต้องทำความเข้าใจ และจะต้องรู้เกี่ยวกับ Form E ซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้นำเข้าสินค้าจากจีน
วันนี้เราจะมาบอกเกี่ยวกับรายละเอียดเล็กน้อย ที่หลายคนอาจจะละเลยไปเกี่ยวกับ Form E เพื่อที่ทำให้การนำเข้าสินค้าจากจีนของคุณเป็นไปได้อย่างราบรื่น และไม่มีสะดุด สามารถที่จะอำนวยความสะดวกให้กับคุณมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
ชื่อ shipper กับชื่อ consignee ที่ระบุไว้ใน Form E ต้องเป็นชื่อเดียวกับที่ระบุใน bill of landing
นี่เป็นรายละเอียดเล็กน้อยที่สำคัญ ซึ่งจะละเลยไปไม่ได้เด็ดขาด คือชื่อของผู้ขายอย่าง Shipper กับชื่อของผู้ซื้อ consignee ที่ระบุไว้ใน Form E นั้น จำเป็นที่จะต้องเหมือนกันทุกประการ และเหมือนกันทุกตัวอักษรกับที่ระบุไว้ใน bill of landing เพราะหากไม่ได้เหมือนกันทุกประการ อาจจะเกิดปัญหาทำให้ล่าช้าไปได้ หรือหากเลวร้ายที่สุด ก็อาจที่จะใช้การไม่ได้ในทันทีเลย
จำเป็นที่จะต้องใส่ Shipping mark ในเอกสารทุกครั้ง
หากผู้นำเข้าสินค้าจากจีน ไม่ต้องการที่จะชี้แจงถึงเหตุผล หรือไม่อยากวางประกัน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องจ่ายภาษีนำเข้าครบถ้วนทุกบาทเอาไว้ก่อนล่วงหน้า อีกทั้งยังจะต้องเสียเวลาทำเรื่อง ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เราจำเป็นที่จะต้องใส่สิ่งที่เรียกว่า shipping mark ไว้ในเอกสารทุกครั้ง เพื่อที่จะลดภาษีบางส่วนไปได้ ไม่อย่างนั้นนอกจากเราจำเป็นที่จะต้องเสียเวลาในการทำเรื่องนานกว่าเดิม เรายังอาจเสียภาษีเต็มๆ อีกด้วย
Commercial invoice ทั้งในส่วนของเลขที่ และวันที่ จะต้องตรงกับที่เขียนไว้ใน Form E
หากเราสังเกตใน Form E เราจะเห็นได้ว่า มีในช่องที่ 10 ของตัว Form E ที่จะให้เราทำการเขียนวันที่กับเลขที่ของ commercial invoice ตรงนี้จำเป็นที่จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนที่จะเขียนลงไป และจะต้องตรงกัน เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมาเล็กน้อย อาจจะต้องทำการแก้ไข และเพิ่มความยุ่งยากในการทำงานให้เรามากเลยทีเดียว
จำนวนแพคเกจ ราคาของสินค้า ที่ระบุไว้ใน Invoice และ packing list จำเป็นที่จะต้องเหมือนกับที่เขียนลงใน Form E
สินค้าทุกชนิด ที่ผู้นำเข้าสินค้าจากจีนระบุเอาไว้ใน Invoice และ packing list จำเป็นที่จะต้องตรงกับที่ระบุไว้ใน Form E ทั้งเรื่องของราคา และจำนวน ส่วนสินค้าที่ไม่ได้ใช้ฟอร์มนี้ ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใส่ลงไปแต่อย่างใด แต่ต้องอย่าลืมว่า ให้แยกรายการสินค้าด้วย ทั้งเรื่องของสินค้าที่มีพิกัดอัตราภาษีนำเข้าที่เหมือนกัน หรืออาจเป็นสินค้าแบบเดียวกัน หรือมีความต่างกันในลักษณะที่เล็กน้อย หรืออาจเป็นสินค้าที่มีราคาเท่ากัน
ยกตัวอย่างเช่น อาจจะแยกตามสี หรืออาจจะแยกตามขนาด ทั้งนี้จำเป็นจะต้องตรวจสอบให้ได้ ว่าเป็นสินค้าประเภทเดียวกันจริงๆ เพื่อที่จะสะดวกต่อการนำเข้าสินค้าจากจีน และการขนส่งสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากที่สุด
และทั้งหมดที่กล่าวมาเหล่านี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเอกสาร Form E ที่ผู้นำเข้าสินค้าอาจจะลืมไป ถือว่าเป็นการทบทวนเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นมากที่สุด นำเข้าสินค้าจากจีนอย่างถูกและสบายใจมากที่สุด ที่โดดเด่นและชัดเจนมากที่สุด คือจะทำให้คุณได้ส่วนลดภาษีนำเข้าดีกว่าต้องจ่ายภาษีเต็ม การลดภาษีบางส่วนถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากเลยทีเดียว
