การที่เราจะนำเข้าสินค้าจากจีนนั้น นอกจากที่เราจะต้องเสียภาษีแล้ว อีกสิ่งที่เราต้องเสียคือค่าอากรนำเข้า ซึ่งทางนี้ก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าของสินค้าที่เราจะนำเข้า แต่ถึงอย่างนั้นในบางประเทศก็อาจมีข้อยกเว้น หรือเงื่อนไขในการนำเข้าสินค้าบางอย่าง ยกตัวอย่างเช่น การนำเข้าสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท เป็นต้น
วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องของ การเก็บค่าอากรนำเข้า หรือการจัดเก็บค่าอากรในการนำเข้าสินค้าจากจีน ไว้ใช้สำหรับเป็นข้อมูลอ้างอิงเบื้องต้นสำหรับผู้ที่จะเริ่มมานำเข้าสินค้าจากจีน โดยเรื่องของการเก็บค่าอากรนำเข้าจากการนำเข้าสินค้าจากจีนมีดังนี้
ค่าอากรนำเข้าส่งออก
ค่าอากรนำเข้าส่งออก หมายถึง รายได้ของประเทศที่กฎหมายกำหนดให้กรมศุลกากรเป็นผู้จัดเก็บ ทั้งจากการนำเข้าและการขนส่งสินค้าออกไปนอกประเทศ ตามพิกัดอัตราศุลกากร โดยจะออกมาในรูปแบบของค่าอากรขาเข้า ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต อากรสรรพสามิต และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งหากเราต้องการนำเข้าสินค้าจากจีน เราจะต้องเสียค่าอากรเหล่านี้
การชำระอากร
การที่เราจะทำการชำระอากรนั้น เราจำเป็นที่จะต้องยื่นใบขนสินค้าตามแบบที่กรมศุลกากรกำหนด โดยในปัจจุบันสามารถยื่นเอกสารแบบเป็นอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบออนไลน์ได้แล้ว แต่ในบางประเภท ก็ยังต้องมีการนำติดตัวผู้โดยสารและของที่ส่งไปรษณีย์ ทางกรมศุลกากรกำหนดให้ไม่ต้องจัดทำใบขนส่งสินค้า ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกต่อผู้ที่นำเข้าส่งออกสินค้า
อัตราภาษี
ต่อไปเป็นเรื่องของอัตราภาษีที่เรียกเก็บ อัตราภาษีบางประเภทก็เป็นการเรียกเก็บตามสภาพ บางประเภทก็จะเป็นการเรียกเก็บตามราคา บางประเภทก็จะเป็นการเรียกเก็บทั้งตามสภาพและตามราคา ซึ่งแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกัน หากต้องการนำเข้าสินค้าจากจีน ก็จำเป็นที่จะต้องรู้ความแตกต่างเหล่านี้
แบบแรกคือการเรียกเก็บอัตราภาษีตามสภาพ หมายถึง อัตราภาษีที่เรียกเก็บตามจำนวน ปริมาณ และปริมาตรของของที่เรานำเข้า แบบต่อไปคือตามราคา ก็ตรงตัวเลย หมายถึงอัตราภาษีที่จะเรียกเก็บตามร้อยละของราคาศุลกากร ส่วนสินค้าประเภทใด ที่กฎหมายกำหนดให้มีทั้งอัตราตามสภาพและอัตราตามราคา การเก็บอัตราภาษีจะคำนวณทั้ง 2 แบบ และจะให้ชำระอากรตามแบบที่คำนวณอากรได้สูงที่สุด
ค่าอากรที่ชำระไว้เกิน และค่าอากรที่ชำระไว้ขาด
หากผู้นำเข้าชำระค่าอากรไว้เกิน ผู้นำเข้าสามารถที่จะขอคืนเงินได้ในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ในทางกลับกันหากผู้นำเข้าชำระอากรไว้ขาด ทางกรมศุลกากรก็จะมีสิทธิ์ที่จะเรียกเก็บอากรที่ขาดได้ตามกำหนดเวลาด้วยเช่นกัน
การลดหย่อนภาษีนำเข้า 0%
ในปัจจุบันนั้น การนำเข้าสินค้าจากจีน จะได้รับการลดหย่อนภาษีนำเข้า 0% แต่ก็มีเงื่อนไขคือ ผู้นำเข้าจะต้องมีใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า หรือที่เรียกว่า ใบ Form E ซึ่งจะออกโดยหน่วยงานที่มีอำนาจในการออกหนังสือรับรองถึงกำเนิดสินค้าของประเทศจีน ทั้งนี้ก็เนื่องด้วยประเทศไทยกับประเทศจีนได้ทำการตกลงทำสิทธิพิเศษทางการค้าอาเซียน-จีนไว้ Asean-China Free Trade Area (ACFTA)
การเก็บเอกสาร
ผู้ที่นำเข้าและส่งออกสินค้านั้น รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทางศุลกากร จำเป็นที่จะต้องเก็บเอกสารที่ใช้ในการศุลกากร ตามที่กรมศุลกากรกำหนดไว้เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่นำเข้าสินค้าหรือส่งออกสินค้า ในกรณีที่มีการเลิกกิจการนั้น จำเป็นที่จะต้องเก็บเอกสารไว้อีก 2 ปีนับตั้งแต่วันเลิกกิจการ ทางนี้ก็เพื่อให้มีหลักฐานย้อนหลังในกรณีที่ถูกขอตรวจนั่นเอง
ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด
ข้อสุดท้ายนี้เป็นข้อที่สำคัญมากที่สุด คือ การไม่ปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าวที่ว่ามานี้ จะมีบทลงโทษทั้งทางแพ่งและทางอาญาเลยทีเดียว