เมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ได้เริ่มมีธุรกิจหนึ่งเติบโตขึ้น ธุรกิจนั้นคือ ธุรกิจการนำเข้าสินค้าจากจีนเข้ามาขายในบ้านเรา ทั้งนี้เริ่มต้นจากคนไทยที่ไปร่ำเรียนในประเทศจีน แล้วเห็นศักยภาพของสินค้าจากจีน ที่มีราคาที่ถูกกว่าบ้านเรามาก อีกทั้งคุณภาพยังค่อนข้างดี ดังนั้นธุรกิจการนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายในไทยจึงเริ่มต้นขึ้น ธุรกิจนี้ดำเนินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงในปัจจุบัน
หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจการนำเข้าสินค้าจากจีนมาในอดีต อาจเป็นเรื่องของการว่าจ้างแรงงานที่ไม่เป็นธรรม ระบบนิเวศทางธุรกิจที่ไม่ค่อยดีมากนัก หรือเรื่องอื่นๆ อีกมากมายหลาก วันนี้เราจะมาคุยกันว่า ธุรกิจการนำเข้าสินค้าจากจีนยังคงเหมาะสมแก่การลงทุนหรือไม่ วิธีการนี้ยังได้รับความนิยมในคนหมู่มากอยู่หรือเปล่า และหากจะลงทุน การลงทุนในธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนถือว่าคุ้มค่าหรือไม่ในปัจจุบัน วันนี้เรามาคุยกัน
เรื่องของระบบนิเวศทางธุรกิจ
เรียกได้ว่า ในช่วงเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา ระบบนิเวศทางธุรกิจในประเทศจีนมีการพัฒนาค่อนข้างสูง การผลิตภาคอุตสาหกรรมในประเทศจีนนั้น เป็นความสัมพันธ์ทางธุรกิจลักษณะเครือข่าย ทั้งผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย หน่วยงานของภาครัฐ และลูกค้า ทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกัน ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ภายในประเทศจีนเองเท่านั้น ประเทศไทยที่มีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับจีน ก็จะได้เปรียบ และเข้าไปเป็นส่วนในระบบนิเวศทางธุรกิจของจีนอีกด้วย การนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายในบ้านเราจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า
การจัดการห่วงโซ่อุปทาน
ได้มี supplier จีนจำนวนมากเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สิ่งนี้ทำให้เหล่าผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ มีตัวเลือกในการซื้อสินค้ามากขึ้น อีกทั้งประสิทธิภาพในกระบวนการการผลิตก็มากขึ้นตาม ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นการผลักดันและสนับสนุนให้ supplier จากจีน ต้องอัพเดทเทคโนโลยีล่าสุด และยกระดับมาตรฐานของตนเองเพื่อดึงดูดลูกค้ามากขึ้น ตลาดกำลังจะเติบโตมากขึ้น การเข้าถึงแรงงานต้นทุนต่ำได้มากขึ้น และความได้เปรียบทางเทคโนโลยีของจีนกำลังกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ไม่ใช่แค่สำหรับการผลิตในประเทศ แต่ยังรวมไปถึงต่างประเทศด้วย
เรื่องของค่าจ้างแรงงาน
ประเทศจีนนั้นมีประชากรมากที่สุดในโลก อยู่ที่ประมาณ 1.39 พันล้านคน นั่นทำให้กฎของอุปสงค์และอุปทานของจีนเป็นแบบนี้ อุปทานของแรงงานมีมากกว่าอุปสงค์ หรือมีผู้คนที่ต้องการงานมากกว่าความต้องการแรงงาน ดังนั้นค่าแรงจึงอยู่ในระดับที่ต่ำ และยิ่งไปกว่านั้น คนจีนส่วนใหญ่ที่อพยพเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ยินดีที่จะทำงานเพื่อรับค่าแรงไม่สูงมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้เป็นการกดขี่หรือใช้แรงงานจนเกินเหตุ เพราะในปัจจุบัน ได้มีการเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้กับแรงงานการผลิต เพื่อตอบสนองต่อค่าครองชีพของจีนที่สูงขึ้น แต่อย่างน้อยสิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่า การผลิตในจีนนั้นใช้ทุนที่ต่ำกว่า และหากคิดแบบนี้แล้ว สิ่งนี้จะเป็นการช่วยลดต้นทุนได้ 30-80 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ทำให้เป็นผลดีกับการนำเข้าสินค้าจากจีนมาขาย
ถึงค่าจ้างแรงงานจะต่ำ แต่สภาพแวดล้อมการทำงานดีกว่า
หากใครกำลังกังวลว่า ถ้าเลือกธุรกิจการนำเข้าสินค้าจากจีน จะเป็นการกดขี่แรงงาน ที่ได้ค่าจ้างขั้นต่ำอยู่แล้วอยากให้ดูตรงนี้ ผู้ผลิตในประเทศจากฝั่งตะวันตกจะปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสุขภาพความปลอดภัยในการจ้างงานและสิ่งแวดล้อม และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ผู้ผลิตจากจีนนั้นจะให้ความสำคัญในเรื่องของกฎระเบียบด้านสุขภาพ ความปลอดภัยในการจ้างงาน และสิ่งแวดล้อม ในอดีตเราอาจเห็นบางโรงงานไม่ได้มีสภาพการทำงานที่ดีมากนัก แต่ในทุกวันนี้ได้มีการปรับปรุงมาตรฐานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นเรื่องยากที่จะพบโรงงานที่ผลิตและส่งออกที่มีสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายไม่เหมาะกับการทำงาน
ด้วยเหตุนี้จึงสามารถที่จะสรุปได้ว่า ธุรกิจการนำเข้าสินค้าจากจีน หากดูจากต้นสาย หรือต้นทางการผลิตแล้ว นับว่าก็ยังคงเป็นธุรกิจที่น่าสนใจที่จะทำ และไม่ต้องกลัวในเรื่องของความเป็นธรรมหรือระบบนิเวศทางธุรกิจ เพราะอย่างที่บอกไป ทุกวันนี้ได้มีการปรับปรุงในเรื่องนี้อยู่มาก ทำให้มีความชอบธรรม และเป็นธุรกิจที่เป็นมิตรกับทางผู้คนและสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ
