เมื่อเอ่ยถึงการทำธุรกิจนำเข้าสินค้าจากจีนเพื่อมาจำหน่ายปลีกในประเทศต่อ แน่นอนว่าหนึ่งในคำถามที่มักทำให้หลายคนต้องใช้เวลาครุ่นคิด ตัดสินใจพอสมควรก็คือ จะเลือกสั่งนำเข้าในลักษณะของการพรีออเดอร์(สั่งตามออเดอร์ที่รับจากลูกค้า) หรือสั่งนำเข้ามาเพื่อสต็อกสินค้าไว้เองก่อน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหลายคนที่สนใจในธุรกิจนี้มักจะได้รับคำแนะนำทำนองว่า หากมีทุนน้อยก็ควรเลือกทำแบบพรีออเดอร์ แต่หากมีทุนเยอะการเลือกสั่งนำเข้าสินค้าจากจีนมาสต็อกไว้เองก่อนก็มีข้อดีมากกว่า อย่างไรก็ตามในการดำเนินธุรกิจจริง ทั้งแบบพรีออเดอร์ และแบบสต็อกสินค้าเองต่างก็มีข้อดี ขอเสียต่างกันออกไป และในการตัดสินใจเลือกว่าจะทำแบบไหนนั้นก็มีปัจจัยให้ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของเงินทุนเท่านั้น ในบทความนี้จึงได้นำเอาข้อดี ข้อเสียของการสั่งนำเข้าสินค้าจากจีนแบบพรีออเดอร์ตามลูกค้าสั่ง และแบบนำเข้าเพื่อสต็อกสินค้าไว้ในร้านเองมาอธิบายให้ได้ทราบกัน เพื่อให้หลายคนได้ใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจ และชั่งน้ำหนักดูว่าตนเองเหมาะที่จะเลือกดำเนินธุรกิจแบบไหนมากกว่ากัน
ระยะเวลาในการรอสินค้า ความแตกต่างที่ชัดเจนมากอย่างแรกเลยก็คือ ระยะเวลาในการรอสินค้าจัดส่ง ซึ่งแน่นอนว่าหากเราทำการสั่งนำเข้าสินค้าจากจีนมาสต็อกไว้เองก่อน เมื่อมีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามา ลูกค้าจะไม่เสียเวลาในการรอสินค้ามากนัก โดยลูกค้าอาจต้องรอรับสินค้าเพียง 1-3 วันสำหรับการจดส่งในประเทศเท่านั้น แต่หากเป็นการพรีออเดอร์ ซึ่งก็คือการสั่งนำเข้าก็ต่อเมื่อมีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาก่อน ลูกค้าอาจต้องใช้เวลารอสินค้ามากกว่า 10 วันขึ้นไป และในบางกรณี หรือสินค้าบางรายการอาจต้องใช้เวลาถึง 1 เดือน ซึ่งจะเห็นว่าระยะเวลาต่างกันพอสมควร ดังนั้นหากมองในแง่ของระยะรอเวลาสินค้าแล้ว อาจกล่าวได้ว่าการดำเนินธุรกิจแบบพรีออเดอร์นั้นเหมาะกับคนที่มีอยู่ฐานลูกค้าอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งฐานลูกค้าเดิมอาจมีความรู้สึกไว้วางใจในการซื้อสินค้ากับทางร้านทำให้ไม่มีความรู้สึกในทางลบเมื่อต้องรอสินค้าเป็นเวลานาน ส่วนคนที่จำเป็นต้องมีการหาลูกค้าใหม่ หรือไม่เคยมีฐานลูกค้าอยู่ก่อนเลย การสั่งนำเข้าสินค้าจากจีนมาสต็อกไว้เองก่อน เพื่อให้มีสินค้าพร้อมส่งตามออเดอร์ทันทีดูจะเป็นวิธีที่เหมาะกว่า เพราะจะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่า
การจำหน่ายปลีกแบบพรีออเดอร์ตั้งเรทราคาได้ถูกกว่า แม้ว่าการสั่งนำเข้าสินค้าจากจีนจะมีข้อดีหลักๆ ในเรื่องของต้นทุน กล่าวคือไม่จำเป็นต้องมีทุนมากก็ดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งในบางกรณีก็อาจจะไม่ได้ใช้ต้นทุนในการสั่งซื้อสินค้าเลย เพราะสามารถเก็บเงินจากลูกค้าก่อนได้ ทว่าในการดำเนินธุรกิจจริงข้อดีดังกล่าวก็มักตามมาด้วยข้อเสีย ซึ่งก็คือการตั้งเรทราคาจำหน่ายปลีกที่ตั้งได้ถูกกว่า เมื่อเทียบกับการจำหน่ายสินค้าประเภทเดียวกัน แต่ทางร้านได้มีการสั่งนำเข้าสินค้าจากจีนมาสต็อกไว้ก่อนแล้ว ซึ่งลูกค้าที่เคยผ่านประสบการณ์พรีออเดอร์สินค้ามาแล้วก็ล้วนเข้าใจความแตกต่างเลยเรทราคาดังกล่าวนี้ดี ดังนั้นจึงกล่าวสรุปได้ว่าการทำธุรกิจในลักษณะของการรับพรีออเดอร์มีข้อดีตรงที่บริหารต้นทุนได้ง่ายกว่า(เสี่ยงขาดทุนน้อยกว่า) แต่ก็มีข้อเสียตรงที่มีโอกาสทำกำไรต่อชิ้นน้อย ขณะที่การดำเนินธุรกิจในลักษณะสั่งนำเข้าสินค้าจากจีนมาสต็อกไว้เองก่อน มีข้อดีตรงที่สามารถทำกำไรต่อชิ้นได้มากกว่า แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ใช้ทุนเยอะ และเสี่ยงขาดทุนจากสินค้าค้างสต็อกได้ การดำเนินธุรกิจแบบหลังจึงเหมาะสำหรับคนที่มีเข้ารู้ความเข้าใจในเทรนด์สินค้านั้นๆ ดี มีความสามารถในการเลือกสินค้าได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า หรือเรียกได้ว่าสามารถคุมความเสี่ยงจากปัญหาสินค้าค้างสต็อกได้นั่นเอง
