ประเทศไทยเป็นประเทศที่นำเข้าสินค้าจากจีนเป็นอันดับต้น ๆ สินค้าส่วนใหญ่ที่ประเทศไทยได้ทำการค้ากับจีนมีมากมาย โดยที่จีนเป็นประเทศที่มีการส่งออกสินค้ามากที่สุดในโลกข้อมูลโดยศูนย์วิจัย รายงาน ว่าประเทศจีนขึ้นแท่นเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง ของไทยในปี 2556 โดยแซงญี่ปุ่นได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยคิดมูลค้ารวมในการค้ารวมคิดเป็น สัดส่วนร้อยละ 13.6 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย โดยรองลงมาจะเป็นญี่ปุ่น และมาเลเซีย ตามลำดับ ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าการนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นเรื่องที่ทำให้เศรษฐกิจในประเทศหมุ่นเวียนค่าเงินโดยไทยนำเข้าสินค้าจากจีน ไทยก็ยังส่งออกสินค้าออกไปยันประเทศจีนอีกด้วย ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าจีนอาจจะเป็นแหล่งการนำเข้าสินค้าจากจีนมาสู่ไทยเป็นอันดับที่หนึ่งของประเทศจนแซงหน้าญี่ปุ่นก็เป็นได้
ทุกวันนี้การนำเข้าสินค้าจากจีนที่พบเห็นในไทยมีจำนวนมาก โดยที่เราไม่รู้หลายๆสิ่งที่เป็นแบรนด์คนไทยแต่ก็ยังไปผลิตที่ประเทศจีนก็มีเยอะ หรือสินค้าที่เป็นของจีนและยังผลิตในจีนก็มีเยอะ จนทำให้เห็นว่าประเทศจีนเป็นคู่ค้าอันดับต้น ๆ ของไทย โดยในทุกวันนี้การนำเข้าสินค้าจากจีนไม่ได้มีเพียงแค่รัฐบาลแต่ยังมีธุรกิจหลายๆอย่างที่คนเป็นเจ้าของธุรกิจเองก็นำเข้าเองได้ เพียงแค่ สนใจในสินค้าของจีนก็มีบริษัทมากมายในไทยที่เป็นตัวแทนในการขนส่งสินค้าจากจีนเข้ามายังประเทศไทย การนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายเปรียบเหมือนการพรีออเดอร์สินค้ามาเพื่อขายในประเทศโดยผ่ายนตัวกลางคือ บริษัทที่ทำเกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าจากจีน อาทิเช่น บริษัท ttp cargo ก็เป็นบริษัทที่รับนำเข้าสินค้าจากจีนโดยตรง โดยมีการขนส่งที่รวดเร็ว และสินค้าชำรุดน้อย
หลักการการขนส่งสินค้าจากจีนมาสู่ไทย มีหลากหลายรูปแบบการขนส่ง
- การขนส่งทางเรือ
การนำเข้าสินค้าจากจีน โดยการขนส่งทางเรือจะมีการใช้เวลาการขนส่งประมาณ 12-15 วันสามารถโดยการนำเข้าสินค้าจากจีนจะเป็นสินค้าประเภทอะไรก็ได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการขนส่งประเภทอื่น
- การขนส่งทางเครื่องบิน
การขนส่งจากประเทศจีนมาประเทศไทยจะใช้เวลาเพียง 2-3 วันเท่านั้นการนำเข้าสินค้าจากจีนทางอากาศนั้นจะเหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการส่งแบบรวดเร็ว หรือเป็นสินค้าที่มีระยะการเก็บรักษาน้อย จึงต้องให้ถึงมือผู้บริโภคให้ทันเวลา และต้องเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักเบา เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการนำเข้า รวมทั้งเป็นการประหยัดเวลาในการขนส่งให้ได้สินค้าอย่างรวดเร็ว
- การขนส่งทางรถ
การขนส่งทางรถจะเป็นการนำเข้าสินค้าจากจีนที่นิยมใช้กันมากที่สุด เนื่องจากการขนส่งทางรถจะใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 5-7 วัน เท่านั้น และยังเหมาะกะการขนส่งสินค้าทุกประเภท การขนส่งทางรถจะมีความรวดเร็ว ใช้ระยะเวลาสั้น และยังสามารถติดตามสถานการณ์ขนส่งนั้นได้ตลอด ทำให้เป็นที่นิยมที่มีการใช้กันมาก
เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศจีนยังคงเป็นแหล่งฐานผลิตที่สำคัญของโลก จึงทำให้สินค้าที่ผลิตจากจีนหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยและอาเซียนอย่างต่อเนื่องจำนวนมาก ซึ่งทำให้ไทยมองว่าการตลาดของไทยจะเป็นที่ท้ายระหว่างสินค้าไทยและสินค้าที่นำเข้ามาจากจีน แต่สินค้าจีนก็ยังพบกับโจทย์ยากในการมัดใจผู้บริโภคและตลาดอาเซียนก็ยังมีความนิยมที่จะเลือกสินค้าจากเทคโนโลยีญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก่อน และสินค้าที่ผลิตในไทยก็ยังได้การตอบรับที่ดีกว่าสินค้าจีนอยู่ แต่เมื่อมองไปในอนาคตการแข่งขันระหว่างสินค้าภายในประเทศไทยและสินค้านำเข้าจากจีนการแข่งขันระหว่างสินค้าออาจจะมีความรุนแรงที่มากขึ้น จึงทำให้ไทยต้องเร่งปรับรูปแบบการทำธุรกิจ เน้นการแข่งขันด้านของคุณภาพของสินค้าเพื่อไทยจะได้อยู่รอดท่ามการตลาดการค้าอาเซียนได้
